หนุ่มมะกันพยายาม จุดไฟเผาใยแมงมุม ในบ้านแม่ แต่นอกจากใยแมงมุมแล้ว หนุ่มดังกล่าวยังเผาบ้าน เสียหายหลายล้านบาท เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน สำนักข่าว ฟ็อกซ์ รายงาน ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เข้าจับกุม นาย จอน ชาร์ลส์ สเตรคเคนแบทช์ ชายวัย 39 ปีในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีวางเพลิง ที่สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท
หลังจากที่ผู้ต้องสงสัยจุดไฟเผาบ้านของแม่
ขณะที่เขาพยายามกำจัดใยแมงมุมด้วยเครื่องพ่นไฟ ซึ่งชายคนดังกล่าวพยายามดับไฟด้วยตัวเองนานนับชั่วโมง แต่ไม่สำเร็จ ทำให้เขาต้องเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ในช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ อย่างไรก็ตามบ้านของแม่ผู้ก่อเหตุได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ด้านแม่ผู้ก่อเหตุระบุว่า ช่วงนี้นาย สเตรคเคนแบทช์ อาศัยอยู่กับตนเนื่องจากเขาตกงานและไม่มีที่อยู่อาศัย
กลายเป็นเรื่องฉาวในประเทศจีนหลังจากที่ เผิง ฉ่วย นักเทนนิสสาวจีน โพสต์กล่าวหาอดีตรองนายกฯบังคับขืนใจเธอ ร่วม 10 ปี เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน สำนักข่าว วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า มีภาพจาก เผิง ฉ่วย นักเทนนิสหญิงชาวจีนวัย 35 ปี อดีตมือวางอันดับ 1 ของโลกประเภทหญิงคู่และเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 2 สมัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความกล่าวหา จาง เกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ผ่านเว็บไซต์เว่ยป๋อ สื่อสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ในประเทศจีน ว่าอดีตรองนายกฯได้ล่วงละเมิดทางเพศเธอ และหลับนอนกับเธอกับร่วมสิบปี
โดยข้อความในโพสต์เล่าว่าในวันเกษียณอายุของ จาง เกาลี่ เขาได้ชวนเธอไปร่วมรับประทานอาหารอดีตรองนายกฯและภรรยา ก่อนที่นาย จาง เกาลี่ จะกดดันให้นักเทนนิสสาว ร่วมหลับนอนด้วย ซึ่งเธอเล่าว่าบ่ายวันเกิดเหตุเธอได้แต่ร้องไห้และปฏิเสธ จาง เกาลี่ อย่างไรก็ตามเธอยอมรับในภายหลังว่าเธอกับนายจาง เกาลี่ เริ่มความสัมพันธ์แบบลับๆกัน
ซึ่งในโพสต์ เผิง ฉ่วย ยังระบุว่า “ฉันไม่มีหลักฐาน และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทิ้งหลักฐานใดๆไว้ คุณกลัวเสมอว่าฉันจะนำบางอย่าง เช่น เครื่องบันทึกเทป ไปบันทึกหลักฐาน หรืออะไรก็ตาม มันไม่มีการบันทึกเสียง ไม่มีการบันทึกวิดีโอ มันมีแต่ประสบการณ์ที่บิดเบี้ยวของฉัน แต่ทุกอย่างคือเรื่องจริง”
อย่างไรก็ตาม วอชิงตันโพสต์ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าภาพนั้นเป็นภาพจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เว็บเว่ยป๋อไม่สามารถเสิร์ชหาบัญชีของ เผิง ฉ่วย ได้ เช่นเดียวกันกับพื้นที่ความเห็นในโพสต์อื่นๆของเธอถูกปิดกันอยู่ในขณะนี้ การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจีนถือเป็นเรื่องแปลก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนใหญ่จะค่อนข้างจะปกปิดชีวิตส่วนตัวอย่างมิดชิด
นักโทษญี่ปุ่น ฟ้อง รบ. เหตุแจ้ง ประหารชีวิต ก่อนไม่กี่ชั่วโมง
นักโทษญี่ปุ่น สองคนรวมตัวฟ้องทางการญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นมีมาตรการแจ้งข่าวการ ประหารชีวิต ไม่กี่ชั่วโมงก่อนประหารจริง เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า นักโทษประหารสองคนได้ยื่นฟ้องทางการญี่ปุ่น ที่แจ้งนักโทษประหารไม่กี่ชั่วโมงก่อนการประหารชีวิตเท่านั้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มีฟ้องร้องแบบนี้ขึ้น
โดยทนายของนักโทษประหารระบุว่า การแจ้งก่อนไม่กี่ชั่วโมงเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการวิพากษ์วิจารณ์แนวทางการประหารนักโทษในญี่ปุ่น โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชน เคยระบุว่ากระบวนดังกล่าวส่งผลกระทบด้านจิตใจกับนักโทษเป็นอย่างมาก
ซึ่งนาย ยูทากะ อูเอดะ ทนายของนักโทษประหารระบุว่า นักโทษต้องตื่นกลัวตลอดเวลา เพราะเขาไม่รู้เลยว่านี่จะเป็นเช้าวันสุดท้ายที่เขาจะได้มีชีวิต แม้ว่าทางการจะเคยพูดว่าวิธีดังกล่าวเป็นการป้องกันไม่ให้นักโทษรู้สึกทรมานก่อนถูกประหาร แต่นั่นไม่ได้อธิบายว่า ทำไมนักโทษในต่างประเทศมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจก่อนการประหารชีวิต
ทางนักโทษได้เรียกร้องค่าเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 22 ล้านเยน หรือคิดเป็นราวๆ 6 ล้านบาทไทย ในปัจจุบันมีนักโทษประหารในประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 100 คน แต่ไม่มีนักโทษคนไหนถูกประหารในช่วงสองปีที่ผ่านมา
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด ในทวีป ยุโรป กลับมาน่ากังวลอีกครั้ง หลังยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด ชี้เป็นเพราะฉีดวัคซีนช้าและผ่อนมาตรการโควิดเร็วไป เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาแถลงว่าในขณะนี้ทวีปยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง และอาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5 แสนศพ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
โดยทางองค์การอนามัยโลกระบุว่าสาเหตุที่ยอดป่วยเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า โดยทาง BBC ระบุว่า แม้ประเทศอย่างสเปนจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบโดสแล้วกว่าร้อยละ 80 แต่อย่างประเทศรัสเซียมีเพียงประชาชนเพียงแค่ร้อยละ 32 เท่านั้น
ซึ่งนอกจากการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าแล้ว ทาง WHO ยังได้ระบุด้วยว่า การผ่อนมาตรการโควิด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสมโรคโควิด-19 เกือบ 250 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 5 ล้านศพ โดยประเทศที่มียอดผู้ป่วยสูงสุดในทวีปยุโรปคืออังกฤษ ตามมาด้วย รัสเซีย ตุรกี ตามลำดับ
เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง
