‘แอน ทองประสม’ เปิดใจ กรณีลูกน้องคนสนิท ขโมยทรัพย์สินกว่า 20 ล้านบาท

‘แอน ทองประสม’ เปิดใจ กรณีลูกน้องคนสนิท ขโมยทรัพย์สินกว่า 20 ล้านบาท

นักแสดงมากความสามารถ แอน ทองประสม ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน กรณีถูกลูกน้องคนสนิทขโมยทรัพย์สิน รวมมูลค่ากว่า 20 ล้าน เผย ทำงานด้วยกันมากว่า 10 ปี จากกรณีที่นักแสดงซุปตาร์และผู้จัดละครคนเก่ง แอน ทองประสม ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกลูกคนสนิทยกเค้าขโมยทรัพย์สินภายในคอนโดหรูย่านทองหล่อ รวมมูลค่าทรัพย์สินเกือบ ๆ 20 ล้านบาท ที่ประกอบไปด้วย เงินสด , แหวนเพชร , ต่างหูเพชร , สร้อยข้อมือเพชร , นาฬิกา ฯลฯ

ล่าสุด แอน ทองประสม ก็ได้ออกมามาเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวกับสื่อมวลชน 

ซึ่งสาวแอนได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับของกลางคืนตามที่มีข่าวปรากฎออกไป ทราบแค่เพียงว่าของทั้งหมดอยู่ที่ใด และรู้ว่าอยู่ที่โรงรับจำนำใดบ้าง โดยเบื้องต้นทรัพย์สินที่ถูกลักเอาไปมีมูลค่ารวม 19 ล้านบาท ซึ่งเป็นเครื่องเพชรและเงินสดที่อยู่ภายในตู้เซฟที่ไม่มีคนทราบรหัส

ในวันเกิดเหตุ ขณะนั้นตนกำลังจะไปออกงาน และกำลังจะนำเครื่องเพชรดังกล่าวมาใส่เพื่อไปงาน แต่เมื่อเปิดตู้เซฟดูกลับพบว่าเครื่องเพชรทั้งหมดได้หายไป แต่ในขนาดนั้นตนต้องรีบไปงานจึงได้วานให้ฝ่ายนิติบุคคลของคอนโด ช่วยดูกล้องวงจรปิดให้ ผลปรากฎว่าพบคนที่เข้าออกห้องของตน โดยเป็นลูกน้องคนสนิท

จึงได้มีการแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเชิญตัวมาให้ปากคำจนในที่สุดผู้ก่อเหตุก็ได้รับสารภาพ เลยได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ แอน ทองประสม ยังได้พูดถึงผู้ต้องหาว่าตน ทำงานกับคนนี้มาเกือบ 10 ปี ทำละครมาด้วยกันก็หลายเรื่อง ส่วนเรื่องเรื่องติดพนัน พอรู้มาบ้างและเคยเตือนหลายครั้งแล้ว

‘แอ๊ว อำภา’ อดีตภรรยา ‘วีรยุทธ รสโอชา’ แจงหลังทราบข่าวการ เสียชีวิต ลั่น ขออโหสิกรรมแต่ไม่ขอไปร่วมงานศพ เพราะเราก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว หลังจากที่มีข่าวช็อกสะเทือนวงการของ ‘เบิ้ม วีรยุทธ รสโอชา‘ อดีตพระเอกชื่อดัง เสียชีวิต ในวัย 59 ปี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ด้านเจ้าหน้าที่คาด ผู้ตายใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเองด้วยปัญหาส่วนตัวและปัญหาด้านสุขภาพภายในบ้านพัก ต.บ้านแค อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ล่าสุด (1 ส.ค.) ทาง ‘แอ๊ว อำภา ภูษิต‘ อดีตภรรยา วีรยุทธ รสโอชา ที่เลิกรากันมานาน 25 ปี ได้มีการออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ เผย หลังจากที่ทราบข่าวการ เสียชีวิต เธอก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอดีตสามีถึงตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองแบบนี้ เพราะตั้งแต่เลิกรากันไปตอน พ.ศ. 2540 ทั้งคู่ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

ก่อนหน้านี้ แอ๊ว อำภา ก็เพิ่งมาทราบข่าวจากคนสนิทว่า วีรยุทธ รสโอชา ล้มป่วยจนต้องนั่งวีลแชร์ ส่วนเรื่องของการ เสียชีวิต เธอไม่ได้ติดใจอะไร สุดท้ายก็ขออโหสิกรรมให้ไปอยู่ภพภูมิที่ดี เพราะเขาเป็นคนเจ้าชู้มาก และก็คงไม่ได้ไปร่วมงานศพ เพราะเราก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว

‘คิมเบอร์ลี่’ เข้าพบตำรวจ ตามคดีโดนขโมยกระเป๋า ร่วม 2 ล้าน

คิมเบอร์ลี่ เดินทางเข้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามติดคดี ถูกคนร้ายขโมยกระเป๋าร่วม 2 ล้านพร้อมเปิดใจกับสื่อ ยังไม่ชัวว่าเป็นคนเดียวกับคดี แอน ทองประสม เรียกได้ว่ายังคงอยู่ในช่วงสืบหาหลักฐานกันต่อไป สำหรับกรณีของนางเอกสาว คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ ถูกคนร้ายลักขโมยกระเป๋าแบรนด์เนมหรู 4 ใบรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่สามารถตามจับกุมคนร้ายได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา คิมเบอร์ลี่ ก็ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลทองหล่อเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดยทางด้านสาวคิมก็ได้ออกมาเปิดใจถึงกรณีนี้ที่มีความคล้ายคลึงกับคดีของพี่สาวคนสนิท แอน ทองประสม ที่ถูกคนใกล้ชิดขโมยเครื่องเพชรให้กับสื่อมวลชนว่า

คดีนี้ค่อนข้างจะต่างจากคดีของ แอน ทองประสม เพราะตนรู้เหตุการณ์ช้าว่าทรัพย์สินหาย รวมทั้งในที่เกิดเหตุในขณะนั้นมีกล้องวงจรปิดไม่มาก จึงทำให้มีพยานหลักฐานไม่ครบถ้วนและเรื่องราวเกิดขึ้นมานานแล้วการตามหาตัวคนร้ายจึงมีความเป็นไปได้ยาก ซึ่งยอมรับว่าตอนนี้ตนเองค่อนข้างหมดหวังแล้วกับการที่จะได้ของคืน

จนกระทั่งล่าสุด ที่เกิดเหตุการณ์ผู้ช่วยคนสนิทของ แอน ทองประสม ก่อเหตุขโมยเครื่องเพชรมูลค่าเกือบ 20 ล้านไป ตนจึงเกิดความสงสัย เลยได้เดินทางมาเข้าพบตำรวจเพื่อสอบถามความคืบหน้าว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีตนเองหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหาคนนี้ก็มีความสนิทสนมกับตนเอง เช่นเดียวกัน และสามารถเข้าออกคอนโดของตนเองได้ อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 5 คนที่ตำรวจเคยเชิญมาให้ปากคำกรณีของตนเองด้วย

ทั้งนี้ คิมเบอร์ลี่ ยังได้เผยอีกว่าเหตุการณ์นี้คงเก็บไว้อุทาหรณ์และหลังจากนี้คงจะไม่กล้าเปิดโอกาสให้บุคคลอื่นเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวแน่นอน เพราะรู้สึกหวาดระแวงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาก็ไม่ได้หวังว่าจะได้ของกลางคืนแล้ว แต่ตอนนี้ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เพราะที่ผ่านมาก็ได้ไปติดตามเบาะแสที่คาดว่าคนร้ายจะนำทรัพย์สินของตนเองไปจำนำ แต่สถานที่ดังกล่าวไม่รับจำนำสินค้าประเภทกระเป๋าแบรนด์เนม จึงทำให้คดีไม่มีเบาะแสและความคืบหน้า แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงยืนยันว่ายังติดตามคนร้ายให้อยู่

cialis2fastdelivery.com
dmgmaximus.com
ediscoveryreporter.com
caspoldermans.com
shahpneumatics.com
lordispain.com
obamacarewatch.com
grammasplayhouse.com
fastdelivery10pillsonline.com
autodoska.net